Welcome to my blog

28 ธันวาคม 2550

พอสร้างบทความได้ก็เอาใหญ่เลยค่ะคราวนี้

ขอฝากไว้ประเดิมเลยนะคระ คราวนี้เกตุเก้ตซังรู้แล้วล่ะคร่ะว่าควรทำยังไง เอาใหญ่เล้ย ก็เริ่มเลยละกันนะ พอดีไปเจอมา ก็เลยเอามาลงน่าอ่านอยู่เหมือนกัน

ห้องสี่เหลี่ยมแคบแคบแสงมืดมืด มีแดดอ่อนรำไรลอดผ่านม่านสีน้ำเงินที่ไม่ได้เปิดมาหลายวันปลายเตียงอุดมไปด้วยหนังสือและแผ่นซีดีหัวเตียงเต็มไปด้วยตุ๊กตาผ้ารูปแมว และเฟรมรูปรูปถ่ายแปะอยู่เต็มข้างฝา ราวกับมีงานนิทรรศการภาพถ่าย ทำยังกับว่าห้องนี้มีคนมาเยี่ยมชมทุกวัน . . . แต่ ! เปล่าเลย
เธอลืมตาขึ้นจากหลับไหล สายตากวาดไปรอบรอบแต่จับโฟกัสไม่ได้สักแห่ง"วันนี้ฉันไม่อยากใส่แว่นตา" เธอบอกกับตัวเอง และทดลองเพ่งสิ่งของเพื่อมองมันในระดับสายตาไม่ปกติเบลอ ภาพไม่คมชัด ขยี้ลูกตา เผื่อมันปรับเป็นจอ LCD เธอเดินออกไปที่ระเบียงหยิบปุ๋ยมาใส่ต้นไม้ ต้นแล้วต้นเล่าทั้งทั้งที่มันทยอยตายเกือบหมดแล้วแต่เธอยังมีหวังว่ามันจะฟื้นคืนชีพ "ฉันรู้ว่าแกแกล้งตาย เพื่อเรียกร้องความสนใจ เอาละฉันสนใจแกแล้ว ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!"เธอพูดกับต้นไม้เหล่านั้นรูปโพราลอยด์ที่แปะอยู่เต็มประตูตู้เย็น เบียดบังความสวยงามกันไปหน่อยเธอขยับบางรูปให้เข้าที่เปิดตู้เย็น หวัง เพียงแค่น้ำเปล่าเย็นๆ สักแก้ว ตู้เย็นส่งกลิ่นคลุ้ง หลังจากถอดปลั๊กทิ้งเอาไว้ตอนออกไปโบยบินผลกรรมจากการกระทำคือ กลิ่นอับ! "แกต้องการถ่านดับกลิ่นใช่ไหม" เธอถามตู้เย็นแต่มันไม่ตอบ ขวดน้ำแร่ขนาด 2 ลิตร แช่อยู่เต็มตู้ มันเป็นขวดเปล่า ไม่มีน้ำสักหยด!เพราะนิสัยชอบแช่ขวดน้ำเปล่า แก้ว ชาม มีด ช้อน ส้อม ทิ้งไว้ในตู้เย็น นมสดขวดใหญ่แต่ปริมาณน้ำนมพร่องขวดจึงเป็นทางเลือกต่อมาไอศครีมวอลล์นอนแช่อยู่ในช่องฟรีต 3-4 แท่ง เย้ายวลความสนใจ "วันนี้ไม่อยากกิน เสียใจด้วยนะ แกไม่ได้ถูกเลือก และฉันก็ไม่ได้เลือกใคร" เธอเดินผ่านจอทีวี ใช้รีโมต กดช่องรายการ มีสารคดีเรื่องเยี่ยมกำลังฉายอยู่ที่หน้าจอ"อยากฟัง แต่ไม่อยากดู ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ แต่ไม่อยากให้ความสำคัญ เปิดทิ้งไว้ละกัน"
เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นไม่เคยมีใครเคยโทรมาหาเธอมาก่อนเลย เธอเอื้อมมือไปรับ"ขอคุยเรื่อง sex ได้ไหมครับ" ปลายสายถามด้วยเสียงสั่นเทา"อยากพูดอะไรก็พูดออกมา""ไม่อยากฟัง แต่ไม่อยากทำร้ายน้ำใจ" แล้วเธอจึงวางสายไว้ข้างๆ โทรศัพท์ ปล่อยให้ปลายสายระบายมันออกมาโดยเธอไม่ได้สนใจโทรศัพท์นั้นอีกเลย เธอละสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยม และโทรศัพท์เดินไปหยิบรองเท้า adidas คู่ใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักกับมันเมื่อวานเก็บไว้ในชั้นวางไม่มีที่ว่างสำหรับของใหม่ . . . "หากมันไม่ว่างพอ ก็ต้องมีบางคู่กำลังจะถูกลืม อย่าสำคัญตัวเองกันมากนัก แกมันแค่รองเท้า"
หมุนตัวกลับหลังโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกบานใหญ่ แต่มันเกือบไม่มีพื้นที่สะท้อนวัตถุเพราะถูกโปสการ์ดใบแล้วใบเล่าทับซ้อนเอาไว้ เครื่องสำอางค์หลากหลายยี่ห้อวางเป็นระเบียบ"วันนี้ไม่อยากสนใจตัวเอง ปล่อยให้หน้าตาและพวกแกเป็นอิสระต่อกันสักวัน" เอี้ยวตัวไปทางขวามือเดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตู รูปถ่ายที่สอดอยู่ในซองพลาสติกหลากสีสันแขวนอยู่หน้าประตูช่อดอกไม้เหี่ยวเหี่ยวสองสามช่อที่อดีตคนเคยรักมอบให้เธอแขวนอยู่ในห้องน้ำพร้อมกับกระถางต้นไม้ที่ทำทีว่าจะเป็นต้นเดียวในห้องแคบแคบ ที่อุดมสมบูรณ์เธอเก็บเอาดอกไม้เหี่ยวๆ เหล่านั้นลงมาแล้วทิ้งมันไปในถังขยะ"รก! เก็บไว้ทำไม เศษซากความทรงจำ เก็บไว้ก็ไม่ได้ทำให้รักกันขึ้นมาได้อีก"พลันคิดได้ดังนั้นเธอจึงไปรื้อตู้เสื้อผ้า มิวายที่จะมีรูปถ่ายสารพัดและโปสการ์ดติดอยู่ทั้งด้านในด้านนอก เสื้อยืดไซต์ L บางตัวที่เคยคุ้นเคยถูกโยนไปนอกระเบียง"เจ้าของมันไร้คุณค่า แต่แกยังเป็นผ้าขี้ริ้วได้ เช็ดฝุ่นอยู่นอกระเบียงละกันนะ"ว่าแล้วเธอเดินเอาเท้าไปเหยียบย่ำอย่างสาแก่ใจ พอที่จะทำให้มันสกปรกมากขึ้น เพื่อตอกย้ำว่ามันเป็น "ผ้าขี้ริ้ว" ไปแล้วขนมปังโฮลวีตแผ่นบางเหลืออยู่ใต้ถุงสองสามแผ่นนมข้นหวานกระป๋องใหม่ยังไม่ได้เจาะ มีดปลายแหลมวางอยู่ข้างๆเธอหยิบมีดปลายแหลมขึ้นมาตอกมันเข้าไป ปาดมันให้สุด เฉือนมันให้ลึกแล้วน้ำเหลวๆ ก็พุ่งมาออกมาเป็นทางสีแดงฉาน แทนที่จะเป็นสีขุ่นของนมข้นหวานเธอล้มตัวนอนนิ่ง หายใจแผ่วเบา ปิดเปลือกตาให้ตัวเองเสียงบรรยายจากโทรทัศน์ยังคงดำเนินต่อไป แข่งเสียงโทรศัพท์ที่ปลายสายตัดสายไปเองดังกังวาล พร้อมกับเลือดสีแดงฉานที่ไหลเป็นทาง

begin with Art

begin with Art